วันศุกร์ที่ 3 ธันวาคม พ.ศ. 2553

ภาษาพาเพลิน ตอน "On the tip of my tongue"

บิกจิ๋ว คือชื่อที่สื่อมวลตั้งให้กับพลเอก "ชวลิต ยงใจยุทธ" ช่วงหลัง ๆ ท่านดังขึ้นกว่าเดิม เพราะว่ามีชนักติดหลัง ที่มักจะโดนนักการเมืองฝ่ายตรงข้ามเอามาตีเป็นประจำ นั่นคือเรื่อง "สภาเปรซิเดียม"  ที่มาที่ไปมันเริ่มจาก ม.ร.ว. คึกฤทธิ์ ปราโมทย์ อดีตนายกรัฐมนตรี ซึ่งมีแนวคิด "ขวาจัด" ได้เคยชี้หน้าด่าบิกจิ๋วว่า "เป็นผู้นิยม สภาเปรซิเดียม" จากนั้นคำ ๆ นี้มันจึงติดหลัง พล.อ. ชวลิต ยงใจยุทธ เป็นต้นมา

สภาเปรซิเดียม คือชื่อของสภาที่ใช้ปกครอง ประเทศรัสเซีย ภายหลังจากที่ "เลนิน" ผู้นำพรรคคอมมิวนิวต์รัสเซีย (พรรคบอลเชวิค) ล้มราชวงศ์โรมานอฟลงในปี 1917 พระเจ้าซาร์ นิโคลัส พร้อม พระราชินี อเล็กซานดรา รวมถึงพระโอรส พระธิดา ถูกปลงพระชนม์หมดทั้งราชตระกูล .. มีเรื่องเล่าต่อ ๆ กันมาอีกว่า ตอนนั้น พระเจ้าซาร์ เตรียมการจะหนีมาเมืองไทยส่งเรือขนส่งสิ่งของมาล่วงหน้าถึงประเทศไทยแล้ว แต่ก็ถูกปลงพระชนม์เสียก่อน จึงไม่มีโอกาสได้มา ในเรือมีทองคำเต็มลำเรือ ไม่ปรากฏว่าผู้ใดเป็นผู้ครอบครอง ทองคำและสมบัติพัสถานเหล่านั้น แต่อันนี้ก็เป็นแค่เรื่องเล่าเฉย ๆ ไม่มีหลักฐานได ๆ ทั้งสิ้น  รายละเอียดเรื่องการล้มราชวงศ์โรมานอฟ จะเอาไว้เล่าวันหลังต่อ 



ต้น สายปลายเหตุที่คำว่า "สภาเปรซิเดียม" เป็นชนักติดหลังบิกจิ๋ว ก็เพราะผู้พูด (ทั้งนักการเมือง, และสื่อมวลชล) ต้องการจะเชื่อมโยงความเป็นผู้มีแนวคิด "ซ้ายจัด" พร้อมทั้งแนวความคิดเรื่อง "ล้มเจ้า" ให้กับพล.อ ชวลิตร ยงใจยุทธ ซึ่งในช่วงที่การเมืองอ่อนไหว เช่นนี้ เราทุกคนควรฟังหูไว้หูมากกว่าที่จะเชื่ออะไรลงไป โดยไม่ไตร่ตรอง เป็นเรื่องละเอียดอ่อนมาก

ระยะหลัง ๆ สื่อมวลชนพากันเรียกบิกจิ๋ว ว่า "พ่อใหญ่จ๋ว" ก็คงเป็นเพราะท่านมีอายุเกือบ ๆ จะ 80 ปีเข้าไปแล้ว คนในวัยนี้จะมีความหลง ๆ ลืมๆ เป็นปกติ แต่สำหรับพ่อใหญ่จิ๋ว แกพิเศษกว่าใคร เพราะแกถูกหาว่าเป็น "อัลไซเมอร์"  มาตั้งแต่ 20 ปีที่แล้ว ก่อนที่แกจะแก่เสียอีก

อาการ หลง ๆ ลืม ๆ ไม่ใช่ว่าจะสงวนไว้ให้ แต่คนแก่ ๆ เขาเป็นกันเท่านั้น คนหนุ่ม ๆ สาว ๆ ก็เป็นกันมาก อุตสาห์ไปหาซื้อน้ำมันปลา (Fish oil) มาช่วยบำรุงสมอง ก็ไม่ได้ช่วยอะไรให้ดีขึ้น เพราะว่า "ลืมกิน" 555 ก็คนมันขี้ลืมอ่ะนะ ทำไงได้ เวลาที่เราเกิดอาการลืม ๆ แต่ว่ามัน "เกือบจะนึกออก" เรามักจะพูดว่า "ติดอยู่ที่ริมฝีปาก" สำนวนนี้ภาษาอังกฤษเขาจะใช้ว่า "On the tip of my tongue" เขียนย่อ ๆ ก็ได้ครับ "TOT"

Tip หมายถึง "ปลาย" หรือ "ส่วนปลาย" Tip of the finger คือปลายนิ้ว Tip of the nose คือ ปลายจมูก และแน่นอนว่า "Tip of the tongue" ก็คือปลายลิ้นนั่นเอง ดังนั้นสำนวนของบ้านเรา กับสำนวนของฝรั่งมังค่า ก็ใกล้เคียงกันเลยนะครับ เขาบอกว่าติดอยู่ที่ปลายลิ้น เราบอกว่า ติดอยู่ที่ริมฝีปาก

I saw the girl on TV, she is adorable, But I can't think of her name. It's on the tip of my tongue (ฉันพบผู้หญิงคนหนึ่งใน TV, น่ารักมาก แต่นึกชื่อไม่ออกน่ะ มันติดอยู่ทีริมฝีปากนี่เอง)

I can't remeber the last song that MLTR was singing lastnight, it's on the tip of my tongue. (ฉันจำไม่ได้ว่าเพลงสุดท้ายที่ MLTR* ร้องเมื่อคืนก่อนคือเพลงอะไร มันติดอยู่ที่มฝีปาก)

พบกันใหม่ตอนหน้า

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น